Aromatherapy Aroma แปลว่า กลิ่น กลิ่นหอม Therapy แปลว่า การบำบัดรักษา Aromatherapy หมายถึงการรักษาอาการเจ็บป่วย                                                 ด้วยน้ำมันเข้มข้นที่สกัดจากพืช                                                   สารสกัดที่มีกลิ่นหอมจากพรรณไม้ที่ได้มีชื่อว่า                     น้ำมันหอมระเหย (Essential oil) น้ำมันหอมระเหย                  หลายชนิดช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้

น้ำมันหอมระเหย (Essential oil คืออะไร)

น้ำมันหอมระเหยผลิตจากต่อมเล็กๆในกลีบดอกไม้ เหง้า ใบไม้ เปลือกไม้ และเนื้อไม้จากพรรณไม้หลายชนิดในธรรมชาติพรรณไม้จะค่อยๆปล่อยกลิ่นหอมออกมา  แต่ถ้าถูกความร้อน  หรือขยี้ให้ต่อมน้ำมันแตก  ออกก็จะได้กลิ่นหอมรุนแรงมากขึ้น  ถ้าต้องการสกัดที่บริสุทธิ์  จะต้องใช้วิธีการกลั่นให้น้ำมันหอมระมันหอมระเหยปนออกมากับไอน้ำ  จากนั้นทำให้เย็นลงแล้วจึงแยกน้ำออกจากน้ำมันอีกที  แต่ถ้าใช้ตัวทำละลายอื่นที่ไม่ใช่น้ำ เช่นแอลกอฮอลล์สกัดจะมีความบริสุทธิ์น้อยกว่าที่ได้จากการกลั่นด้วยไอน้ำ  เพราะมีตัวทำละลายเจอปนอยู่

การรักษาด้วยน้ำมันหอมระเหยได้หลายวิธี

การอาบ

หยดน้ำมันหอมระเหย  6-8 หยด  ลงในอ่างน้ำอุ่นๆ นอนลงแล้วสูดหายใจลึกๆ แช่ประมาณ 10-15 นาที  เพื่อบรรเทาอาการนอนไม่หลับ  เครียด ปวดกล้ามเนื้อ  เลือดไหลเวียนไม่ดี  มีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน ไอ เป็นหวัด ปวดศรีษะ บวมน้ำ

การสูดดม

หยดน้ำมันหอมระเหย 2-3 หยด  ลงในกระดาษทิชชู่ที่พับหนาๆ เพื่อสูดดม  หรือหยดใส่ผ้าเช็ดหน้าสูดดมใส่ในกระเป๋าเพื่อวางไว้ข้างหมอน  จะช่วยให้หายใจโล่ง  หากมีอาการคัดจมูกส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันยูคาลิปตัส  หรือสูดดมในถ้วยน้ำร้อน  ใช้ผ้าขนหนูคลุมศรีษะ  หลับตา  และหายใจเข้าลึกๆ  ทางจมูกจนรู้สึกว่ากลิ่นจางลง  ยกเว้นผู้ที่เป็นโรคหอบหืดไม่ควรสูดดม

การแช่มือหรือเท้า

หยดน้ำมันหอมระเหย  8-10  หยด  ลงในอ่าง  ใส่น้ำอุ่นๆ  แช่มือหรือเท้า 10-15 นาที  จากนั้นใช้ผ้ขนหนูแห้งห่อมือหรือเท้าประมาณ 15 นาที  อาจจะนวดด้วยน้ำมันนวดที่ผสมระหว่างน้ำมันกลางจากพืช (น้ำมันมะพร้าว น้ำมันโจโจบา  น้ำมันมะกอก  งน้ำมันงา  น้ำมันอโวคาโด) กับน้ำมันหอมระเหย

การนวด

ต้นคอหรือไหล่  ใช้น้ำมันนวดที่ผสม  นวดหนักๆเป็นวงประมาณ3 นาที

เท้าใช้น้ำมันนวดี่ผสมแล้ว  ทาที่เท้าและขานวดขึ้นโดยนวดจากเท้าขึ้นหาเข่า เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

น้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากพืชมีองค์ประกอบทางเคมีมากมายหลายชนิด  และมีโมเลกุลต่ำจึงดูดซึมไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ ได้ดี ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะให้ผลดีต่อการบำบัดโรคภัย ไข้ที่เกิดขึ้นต่อร่างกายและจิตใจ  เช่น ปวดศรีษะ นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง เป็นต้น แต่ต้องเป็นโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่มีความซับซ้อนมากนัก ในกรณีของโรครุนแรงจะต้องใช้การรักษาตามแบบแพทย์แผนปัจจุบันควบคู่กันไปด้วย

การนำมาใช้จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วยเช่นกันกล่าวคือ ต้องใช้ในอัตราส่วนที่เจือจาง  การใช้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ต้องตรวจดูก่อนว่ามีการแพ้น้ำมันหอมระเหยตัวใดบ้าง และห้ามเด็ดขาดไม่ให้ใช้ในผู้ป่วยบางโรค เช่น โรคลมชัก โรคหืดหอบ สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร

•สำหรับน้ำมันหอมระเหยที่นิยมนำมาใช้บำบัดโรคได้แก่ Lavender (ลาเวนเดอร์), Chamomile (คาโมไมล์), Marjoram (มาร์โจแรม), Rosemary (โรสแมรี่), Tea tree (ที ทรี), Pepermint (เปปเปอร์มินท์), Eucalytus (ยูคาลิปตัส), Bergamot (เบอร์กาม็อท), Geranium (เจอร์เรเนียม), Thyme (ไทม์), Ylang Ylang (อิลัง อิลัง) และ Basil (โหระพา)